เลือกตำแหน่งและภาษาของคุณ
กรณีศึกษา

มองมุมใหม่ในโลกไฮบริด

โอกาสในการเชื่อมต่อกับลูกค้าอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีหน้าจอแสดงผล

2022-09-13

ช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้รัฐบาล อุตสาหกรรม และคอมมูนิตี้ต่างๆ ต้องทบทวนแนวคิดใหม่เกี่ยวกับการมีปฏิสัมพันธ์และการเชื่อมต่อที่ผสมผสานระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกจริงมากยิ่งขึ้น จนกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของทุกคน

แต่ไม่ว่าจะเป็นการพบแบบเจอตัวหรือการเชื่อมต่อแบบเสมือนจริง ประเด็นหลักของเรื่องนี้อยู่ที่การมีปฏิสัมพันธ์อย่างครอบคลุมทั่วถึงทุกคน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ และมีประสิทธิภาพสำหรับทุกภาคส่วน

สำหรับองค์กรแล้ว สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้องค์กรต้องคิดเรื่องการออกแบบพื้นที่ใหม่กันตั้งแต่พื้นฐาน เพื่อช่วยให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานและความร่วมมือที่เอื้อต่อวิธีการทำงานแบบไฮบริด

สภาพแวดล้อมในการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้บทบาทของเทคโนโลยีจอภาพมีความสำคัญมากขึ้นในโลกไฮบริด เพราะเทคโนโลยีนี้เข้ามาช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าและช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ช่วยเติมเต็มการทำงานและเติมพลังให้ชีวิต

นี่คือสามสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นได้ในโลกไฮบริด เพื่อเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้าและสร้างความประทับใจให้อยู่ยาวนาน

1. ล็อบบี้และพื้นที่เอนกประสงค์

ทุกวันนี้ ล็อบบี้หรือพื้นที่อเนกประสงค์ ทั้งในสำนักงาน ร้านค้า และโรงแรม กลายเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม คำถามที่ตามมาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงก็คือ ทำไมจะต้องไปถึงพื้นที่จริง ในเมื่อคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการทั้งหมดได้จากบ้านด้วยปลายนิ้วผ่านสมาร์ทโฟนของคุณเอง

ด้วยประสบการณ์ทางออนไลน์ เว็บไซต์หรือแอป ทำให้แบรนด์และธุรกิจต่างๆ จำเป็นจะต้องหาวิธีที่ช่วยให้การมีปฏิสัมพันธ์ ทั้งแบบเจอตัวและแบบออนไลน์ มีความหมายและมีแรงจูงใจมากขึ้นสำหรับลูกค้า

นี่คือจุดที่เทคโนโลยีจอภาพที่ล้ำสมัยก้าวเข้ามามีส่วนช่วยในการพัฒนาเรื่องนี้ได้ เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์ได้เชื่อมโยงกับลูกค้าอีกครั้ง โดยใช้ประโยชน์จากการมีปฏิสัมพันธ์แบบเจอหน้ากันให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างเช่น The Wall จอภาพที่ความละเอียดสูง ขนาดใหญ่ และมีรูปแบบโมดูลาร์ที่สามารถสร้างประสบการณ์การมีส่วนร่วมอย่าง
พรีเมียมให้กับลูกค้าได้ ทั้งในล็อบบี้ ห้องประชุม หรือศูนย์แสดงสินค้า

โปรเจกต์พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทยอย่าง The Forestias จาก MQDC ใช้ประโยชน์จาก The Wall ด้วยการสร้างโรงภาพยนตร์แบบ 360 องศา ที่สามารถนำเสนอประสบการณ์การรับชมที่ไม่ซ้ำใคร ทั้งความสมจริงของภาพและความประทับใจให้แก่ลูกค้า  (อ่านกรณีศึกษาได้ ที่นี่ )

The Wall ให้ The Forestias สร้างประสบการณ์การรับชมที่ไม่ซ้ำใคร

The Wall enabled The Forestias to create a one-of-a-kind visual experience The Wall enabled The Forestias to create a one-of-a-kind visual experience

จอวิดีโอประกอบด้วยแผงควบคุม ขนาด 384 Micro LED ที่เรียงกันเป็นแถวเพื่อสร้างภาพที่ต่อเนื่องกันแบบ 360 องศา
ที่มีความละเอียดหน้าจอขนาด 46,080 x 4,320 พิกเซล

 

ทั้งหมดนี้เพื่อการนำเสนอประสบการณ์โรงภาพยนตร์แบบ 360 องศาที่ช่วยสร้างความประทับใจและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับภาพที่เห็นให้กับผู้เยี่ยมชม The Forest Pavilion ซึ่งทำหน้าที่เป็นเซลส์แกลเลอรีของโครงการใหม่นี้ หลังจากนั้น


โรงภาพยนตร์แห่งนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นศูนย์การเรียนรู้สำหรับผู้พักอาศัยในโครงการ

 

อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจก็คือ การยกระดับเทคโนโลยี Micro LED ขึ้นไปอีกขั้นผ่าน The Wall All-in-One หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า IAB Series ซึ่ง IAB Series นี้ยังรวมถึงการติดตั้งที่ง่ายลงอย่างเห็นได้ชัด โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 ชม. และคนเพียง 2 คนในการติดตั้งเท่านั้น โดย IAB Series มาพร้อมกับชั้นวางที่มีการปรับไว้แล้วและชุดติดตั้งเฟรมที่ประกอบไว้แล้วเช่นกัน รวมถึงเครื่องเล่น S-box ที่มาในตัวเครื่อง ด้วยความบางเพียง 49 มม. The Wall All-in-One มี 3 รุ่นให้เลือก ได้แก่ 4K 146 นิ้ว, 2K 146 นิ้ว และ 2K 110 นิ้ว

2. ห้องเรียนและห้องประชุม

การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ส่งผลมาถึงห้องเรียนและห้องประชุม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เราใช้กันมาก ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษาหรือคนทำงาน

 

ที่นี่ จอภาพเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างโลกเสมือนจริงและโลกจริง การสร้างประสบการณ์ต่างๆ ที่ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างลื่นไหลและน่าประทับใจ ในโลกไฮบริดจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสถานศึกษาและธุรกิจต่างๆ ที่เราคาดหวังว่าจะมีผู้เข้าร่วมทั้งจากทางไกลและในสถานที่จริง

 

ตัวอย่างที่น่าสนใจคือ Arcc Spaces ที่สิงคโปร์ ซึ่งนำ Samsung Flip ไปใช้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ทำให้โคเวิร์คกิ้งสเปซระดับพรีเมียมเป็นที่ทำงานแบบไฮบริด ที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันได้ เหมาะกับสไตล์การทำงานยุคใหม่ของทุกวันนี้ (อ่านกรณีศึกษาได้ ที่นี่)

ด้วยการแสดงผลแบบหน้าจออินเตอร์แอ็คทีฟของ Samsung Flip ทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับผู้เข้าร่วมประชุม ไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้าประชุมจากในโคเวิร์คกิ้งสเปซหรือเชื่อมต่อทางไกลจากที่อื่น

 

The Flip ยังมีข้อดีตามชื่อ เพราะผู้เข้าร่วมประชุมสามารถจดโน้ตลงไปได้เหมือนกับในฟลิปชาร์ท นอกจากนี้ยังสามารถเขียนได้อย่างลื่นไหลด้วยการใช้งานแบบ Pen-to-paper ซึ่งช่วยซัพพอร์ตผู้ใช้งานในการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านหน้าจออย่างต่อเนื่องไม่ต่างกับการเจอหน้ากัน นี่คือวิธีที่จอภาพของ Samsung ใช้ในการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงในโลกดิจิทัล โดยทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนกับเอาไวท์บอร์ดของจริงมาใช้ในห้องประชุม

 

การปรับเปลี่ยนนี้ทำให้ Arcc Spaces ซึ่งตั้งอยู่ในย่านการเงินของสิงคโปร์ สามารถดึงดูดองค์กรที่สนใจที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและมองหาวิธีผลักดันนวัตกรรมในโลกดิจิทัล

 

2022 Samsung Flip Pro รุ่นใหม่ ยกระดับการทำงานร่วมกันของนักเรียนและคนทำงาน ให้ทั้งเขียนและวาดด้วย Pen Mode และ Brush Mode, ใช้แอปวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น, สนับสนุนการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และการแชร์หน้าจอไร้สาย โดย Flip Pro มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น คือขนาด 55 นิ้ว, 65 นิ้ว, 75 นิ้ว และ 85 นิ้ว

3. บ้าน

แม้แต่ที่บ้านเอง ไลฟ์สไตล์ก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน สำหรับคนที่ทำงานจากบ้านก็ต้องเจอกับความคาดหวังว่าต้องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลื่นไหล และมีส่วนร่วมกับทีมเหมือนกับเวลาเข้าออฟฟิศ ไม่เพียงเท่านั้นเรายังต้องทำงานให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อเจอกับไทม์ไลน์งานที่เร่งด่วน เดดไลน์ที่แน่นเอี้ยด ในขณะเดียวกันก็ต้องแบ่งเวลาให้กับครอบครัวไปพร้อมกันด้วย

 

นั่นคือเหตุผลที่ทำไมจอมอนิเตอร์ถึงมีความสำคัญมากขึ้นในโลกไฮบริด มอนิเตอร์มีหน้าที่ช่วยให้เราทำได้มากกว่าการขยายพื้นที่เดสก์ท็อป เพราะจอมอนิเตอร์ต้องทำหน้าที่ได้หลายอย่าง เพื่อให้เราบาลานซ์ระหว่างเรื่องงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างลงตัว

 

Smart Monitor M8 จาก Samsung สามารถเก็บรายละเอียดของโลกไฮบริดยุคใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยฟอร์มแฟคเตอร์ขนาด 32 นิ้ว ความละเอียดระดับ UHD และกล้อง SlimFit Cam ไม่เพียงแค่นี้มอนิเตอร์รุ่นนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับเรื่องงานเท่านั้น เพราะ M8 สามารถช่วยผู้ใช้งานสนุกได้กับบริการสตรีมมิ่งต่างๆ หรือ OTT1 อย่างเช่น Netflix, Amazon Prime, Disney+ โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับเครื่องพีซีหรือทีวี

 

ส่วน Odyssey Ark รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นจอมอนิเตอร์เกมแบบจอโค้งระดับ 1000R ขนาด 55 นิ้ว รุ่นแรกของ Samsung สามารถสร้างประสบการณ์เต็มอิ่ม ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงภาพยนตร์ส่วนตัวให้กับเกมเมอร์ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเกมเมอร์สายแข่งขันหรือเล่นแบบชิลๆ โหมด Multi View ของ Ark ทำให้สามารถแบ่งหน้าจอออกเป็นหลายส่วน จะแบ่งเป็นเกม ความบันเทิง และงานด้วยก็ได้ ในสถานการณ์ที่ต้องเรียนและทำงานไปด้วย ผู้ใช้งานสามารถใช้หน้าจอมอนิเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในออฟฟิศหรือที่บ้าน ยกตัวอย่างเช่น ViewFinity รุ่นใหม่ของ Samsung ที่ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ต้องการความแม่นยำ รายละเอียดที่ลงลึก และความต่อเนื่องในการทำงาน ให้นึกถึงดีไซเนอร์ ศิลปิน และครีเอเตอร์แขนงต่างๆ ที่ใช้หน้าจอเหล่านี้แทนผืนผ้าใบในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และสร้างผลงาน

ViewFinity S8 รุ่นใหม่ให้คุณทำงานและสนุกกับความบันเทิงที่บ้านสำหรับมืออาชีพและครีเอเตอร์ที่ต้องทำหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน

ตัวอย่างหนึ่งก็คือ ViewFinity S8 ที่ให้คุณได้สัมผัสการใช้งานจอมอนิเตอร์ระดับโปร ความละเอียดสูงระดับ UHD และหน้าจอสามารถแสดงเฉดสีได้หลายเฉด ทั้งยังมี Video Electronics Standards Association (VESA) DisplayHDRTM 6002 สำหรับเรนจ์ที่เพิ่มขึ้น ความแม่นยำที่มากขึ้น และความต่อเนื่อง

 

การปรับเทียบสีจอภาพระดับโปรเฟสชันแนลให้ภาพที่คมชัดบนแผงควบคุม IPS ซึ่งทำให้เกิดการสร้างสีสันที่สดใสและคอนทราสต์ที่ชัดเจนในเวลาที่คุณต้องทำงานที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและมีความซับซ้อนในเชิงวิชวล หรือโปรเจกต์ออกแบบต่างๆ

 

การใช้สายตาติดต่อกันนานหลายชั่วโมงก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อมี ViewFinity S8 ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันถนอมสายตาอัจฉริยะซึ่งได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland องค์กรรับรองมาตรฐานจากเยอรมนี นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อย่าง Adaptive Picture ที่ช่วยปรับคุณภาพการแสดงผลของจอภาพให้ดีที่สุดในทุกสภาพแวดล้อมของการมองเห็น พร้อมด้วย Eye Saver Mode และเทคโนโลยี Flicker Free ซึ่งทั้งหมดล้วนมีส่วนช่วยถนอมสายตาเวลาใช้งานทั้งนั้น

เพื่อเปิดศักยภาพใหม่ๆ ไปกับการใช้เทคโนโลยีจอแสดงผล

ทุกวันนี้ ความหลากหลายของวิธีในการทำงาน การทำเรื่องสนุกๆ และไลฟ์สไตล์กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับประสบการณ์ที่แบรนด์นำเสนอให้กับลูกค้า ในโลกไฮบริดนี้ การพบปะแบบเจอหน้าตาค่าตากันมีแรงจูงใจและสร้างประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันได้มากกว่า ถึงแม้เราจะรวมโลกดิจิทัลเข้ากับโลกความเป็นจริงแล้วก็ตาม

 

ในขณะที่ธุรกิจมีการปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลมากขึ้นแล้ว แต่ก็ยังต้องมองหาวิธีการใหม่ๆ ในการสร้างความร่วมมือในการทำงานและนำเสนอผลลัพธ์ ในห้องเรียน นักเรียนต่างมองหาประสบการณ์การเรียนที่เข้มข้นยิ่งขึ้น ส่วนที่บ้าน ทุกคนต่างก็ต้องการอุปกรณ์ที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานและใช้ชีวิตส่วนตัวเช่นกัน

 

ในยุค New Normal นี้ องค์กรและแบรนด์ต่างๆ จึงต้องรีบพัฒนาเทคโนโลยีในจอภาพที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พร้อมสำหรับอนาคตที่รอเราอยู่ข้างหน้าในเร็ววันนี้

  • 1 ความหลากหลายของแอปอาจขึ้นอยู่กับประเทศและการสมัครใช้บริการแอปมีค่าใช้จ่ายต่างหาก การใช้แอปต้องมีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ส่วน TV Tuner ไม่รวมอยู่ในนี้
  • 2 VESA Display HDR 600 มีเวอร์ชัน 32-inch ส่วนรุ่น 27-inch รองรับการทำงานกับ VESA Display HDR 400VESA
  • Disclaimer: รูปภาพทั้งหมดที่ใช้ในบทความนี้ใช้เพื่อเป็นตัวอย่างเท่านั้น

ลงทะเบียนเพื่อซื้อสินค้า (สำหรับการซื้อสินค้าจำนวนไม่เกิน 10 เครื่อง)

สอบถามข้อมูลการขาย

ติดต่อกับทีมขาย

ติดต่อกับทีมขายของเราเพื่อหารือเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ หรือขอใบเสนอราคาสำหรับการซื้อสินค้าจำนวนมากกว่า 10 เครื่องขึ้นไป
***สำหรับลูกค้าทีซื้อในนามบริษัทเท่านั้น

เบอร์โทร ให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์

เบอร์โทร

บริการด้านเทคนิค

ต้องการการสนับสนุน? ติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญของเราสำหรับการสนับสนุนเฉพาะผลิตภัณฑ์และความช่วยเหลือด้านเทคนิค