เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น

รวมเคล็ดลับอัพสกิลเรียนออนไลน์ให้ได้ผลดีและมีสมาธิมากขึ้น

แม้ในปัจจุบัน สถานการณ์โรคระบาดอาจดูเหมือนจะคลี่คลายลงไปบ้างแล้ว บางโรงเรียนเริ่มเปิดให้นักเรียนกลับไปเรียนได้ตามปกติ แต่ก็ยังมีอีกหลายโรงเรียนที่มีมาตรการให้เรียนออนไลน์ที่บ้าน หรืออาจเรียนที่โรงเรียนสลับกับเรียนออนไลน์กันต่อไป แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา หลายบ้านอาจรู้สึกว่าความอิสระของการเรียนออนไลน์นั้นส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เราจึงขอนำเสนอเคล็ดลับที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนออนไลน์แบบง่าย ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ลองนำไปปรับใช้กันดู

1. ตั้งเป้าหมายในแต่ละวันให้ชัดเจน

การเรียนออนไลน์ หรือทำงานที่บ้าน (Work from home) อาจทำให้รู้สึกเฉื่อยชา จึงควรสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนด้วยการตั้งเป้าหมายหรืออาจเขียน To-do List ของสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ อาจเป็นงานหรือการบ้านที่ต้องทำในแต่ละวันให้ชัดเจน โดยไม่กำหนดปริมาณสิ่งที่ต้องทำมากจนเกินไป และอาจกำหนดเดดไลน์ของงานแต่ละชิ้น ก็จะช่วยให้สามารถจัดการเวลาได้ดียิ่งขึ้นด้วย

2. หาสถานที่เหมาะสมกับการเรียน

ขึ้นชื่อว่าเป็นการเรียนออนไลน์ ทำให้สามารถเรียนจากที่ไหนก็ได้ไม่กำหนดสถานที่เรียนที่ตายตัว จึงควรเลือกสถานที่ที่มีบรรยากาศเหมาะสมกับการเรียน เพราะสถานที่และบรรยากาศโดยรอบนั้นส่งผลกับการเรียนไม่น้อย โดยเฉพาะกับเด็กเล็กที่อาจเสียสมาธิได้ง่ายเมื่อมีสิ่งรบกวน ควรเลือกสถานที่ที่เงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัว หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนอยู่เยอะ หรือมีเสียงดังอึกทึก เพราะบางครั้งการเห็นสมาชิกในบ้านเดินไปมาทำกิจกรรมต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา อาจทำให้ไม่มีสมาธิโฟกัสกับการเรียนได้อย่างเต็มที่

3. จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเข้าเรียน

นอกจากสถานที่ที่ใช้ในการเรียนแล้ว ความพร้อมด้านอุปกรณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะในการเรียนออนไลน์ จำเป็นจะต้องใช้แอปพลิเคชันหรือเว็ปไซต์ต่าง ๆ ที่ต้องเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ต ดังนั้น จึงต้องตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก่อนเข้าเรียน เพื่อไม่ให้สัญญาณมีปัญหากระทบต่อการเรียน

ระบบภาพและเสียงของอุปกรณ์ก็มีผลต่อการเรียนออนไลน์ เพราะหากได้ยินเสียงไม่ชัด ขาด ๆ หาย ๆ หรือภาพเบลอ ไม่ชัดเจน ก็อาจทำให้การเรียนติดขัด เหมือนมองกระดานแต่ไม่รู้ว่าครูเขียนตัวหนังสืออะไรไว้ ลองเปลี่ยนมาเรียนออนไลน์บนหน้าจอทีวีหรือจอมอนิเตอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าหน้าจอมือถือ หรือแล็ปท็อปทั่วไปดูไหม เพราะจะได้เห็นภาพและฟังเสียงได้อย่างชัดเจน

แต่หากกังวลว่าการต่อคอมเข้าทีวีไร้สายหรือเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับจอมอนิเตอร์นั้นเป็นเรื่องยากลองเปลี่ยนมาใช้ จอมอนิเตอร์ ที่จะทำให้คุณสามารถใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในสมาร์ทโฟนผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องต่อสาย เพียงแค่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเข้ากับหน้าจอมอนิเตอร์ผ่าน Wireless Dex เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเรียนออนไลน์หรือจัดการเอกสารการเรียนต่าง ๆ ได้บนหน้าจอที่ใหญ่และชัดกว่าที่เคย

ส่วนใครที่ใช้อุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ IOS ก็ไม่ต้องกังวลใจว่าจะสามารถต่อคอมเข้าทีวีไร้สายของ Samsung ได้หรือไม่ เพราะเทคโนโลยี AirPlay 2 จะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เข้ากับหน้าจอมอนิเตอร์ได้อย่างง่ายดายเช่นกัน

แอบกระซิบว่าคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน PC on Screen ของหน้าจอมอนิเตอร์เข้าไป Remote Access ทำงานจัดการไฟล์ที่อยู่บนเดสก์ท็อปคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศที่เป็น Windows 10 Pro หรือ Mac OS 10.5 หรือสูงกว่าได้เช่นกัน เรียกว่าเครื่องเดียวใช้คุ้มค่ากันทั้งครอบครัว
หากอยากรู้ว่าจอมอนิเตอร์ดี ๆ จะช่วยให้การเรียนออนไลน์และการ Work from home เป็นเรื่องง่าย และสะดวกสบายมากขึ้นขนาดไหน เรียนรู้เพิ่มเติม

4. จดโน้ตไว้ไม่ให้ลืมสิ่งที่เรียน

การจดโน้ตก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเรียนทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะแค่เพียงฟังครูสอนและอ่านจากหนังสือหรือเอกสารประกอบการเรียนคงไม่เพียงพอ เพราะอาจหลงลืมสาระสำคัญที่ครูผู้สอนพูดนอกเหนือจากในหนังสือ และเนื่องจากการเรียนออนไลน์ในปัจจุบัน ทำให้เอกสารการสอนมักมาในรูปแบบของไฟล์เอกสาร ที่จะต้องพิมพ์ออกมาก่อนจึงจะสามารถจดโน้ตลงไปได้ ถ้าอย่างนั้นลองหาตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้การจดโน้ตง่ายขึ้นอย่างแท็บเล็ตแบตอึดพร้อมปากกาอัจฉริยะ S Pen ที่ช่วยให้สามารถจดโน้ต หรือไฮไลท์ไฟล์ PDF ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องคอยพิมพ์ออกมาให้ยุ่งยาก ทั้งยังสามารถแชร์ไฟล์การบ้าน หรืองานจาก Samsung Notes เป็นไฟล์สกุลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ไม่ว่าครูจะให้ส่งไฟล์ Microsoft Word, Microsoft PowerPoint หรือ PDF ก็สามารถทำได้ไม่ซับซ้อนยุ่งยาก หรือหากอยากใช้แท็บเล็ตเป็นสมุดจดรายวิชาก็สามารถทำได้ด้วยแอปพลิเคชันจดโน้ตที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมาย เพียงเท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนแท็บเล็ตให้เป็นกระเป๋าใบใหญ่ที่เก็บโน้ตหลากหลายวิชาไว้อ่านได้ทุกที่ทุกเวลาแล้ว

5. จัดตารางเวลาดี มีชัยในการเรียนมากกว่า

การเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านทำให้มีอิสระในการใช้เวลาในแต่ละวันมากขึ้น ยิ่งหากทางโรงเรียนใช้วิธีสอนผ่านการอัดวิดีโอแล้วล่ะก็ ยิ่งต้องมีวินัยในการใช้เวลา และจัดตารางเรียนให้ดี ไม่เช่นนั้นการเรียนออนไลน์อาจยิ่งไร้ประสิทธิภาพ ก่อนนอนควรลิสต์วิชาที่จะต้องเรียนในวันถัดไป โดยกำหนดรายวิชาพร้อมระบุระยะเวลาที่จะใช้ในการเรียนแต่ละวิชาให้เหมาะสม และทำตามลิสต์ให้ได้ครบถ้วนในแต่ละวัน เพื่อจะได้มีเวลาเหลือเผื่อทำการบ้าน สะสางงานที่คั่งค้าง และทบทวนความรู้

6. Study-Life Balance หาเวลาพัก สร้างสมดุลชีวิต

เรียนออนไลน์มาทั้งวัน สมองเริ่มล้า ตาเริ่มเบลอ อย่าลืมหาเวลาพักผ่อนสมองและใช้เวลาร่วมกับครอบครัวเพื่อสร้างสมดุลให้ชีวิตไม่ตึงเครียดจนเกินไป อาจหากิจกรรมทำร่วมกัน เช่น ปลูกต้นไม้ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือหาหนังดี ๆ สักเรื่องมานั่งดูและพูดคุยกันสร้างบรรยากาศดี ๆ ลดความเครียดของคุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานหนักมาทั้งวัน และลูก ๆ ที่เรียนออนไลน์กันอย่างหนักหน่วง โดยอาจเพิ่มอรรถรสการชมภาพยนตร์ และลดภาระของสายตาที่ต้องจ้องหน้าจอเล็ก ๆ มาทั้งวันด้วยการต่อคอมเข้าทีวีไร้สาย ขยายจอใหญ่ให้ทุกคนในครอบครัวได้เพลิดเพลินกันอย่างทั่วถึง

ในยุคนี้ การเรียนออนไลน์อาจกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก ถ้าเช่นนั้น ลองลุกขึ้นมาสร้างบรรยากาศ ปรับพฤติกรรมและความคิด โดยหาตัวช่วยดี ๆ ที่จะทำให้การเรียนออนไลน์กลายเป็นเรื่องสนุก

อ่านเรื่องราวเหล่านี้ในครั้งต่อไป